สูตรอาหารไทย

สูตรข้าวผัดหมู และวิธีผัดข้าวให้อร่อย
สูตรอาหารไทย ข้าวผัดหมู เมนูอาหารนี้อาจฟังดูเป็นอาหารพื้นๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะหาข้าวผัดหมูอร่อยๆถูกใจนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน ปกติแล้วมักจะเจอแบบพอกินได้เท่านั้น ทั้งที่วิธีทำข้าวผัดหมูนั้นสามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเลย แต่ทำไมความอร่อยและน่าทานจึงแตกต่างกัน คุณอยากรู้ไหม? …เคล็ดลับของข้าวผัดหมูนั้นอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ปรุง ว่าจะเพิ่มเสริมรสอย่างไรให้ถูกใจถูกปากผู้บริโภค และที่สำคัญข้าวผัดจะต้องแห้งหมาด รสชาติเข้มข้น สีสันสวยงาม และสิ่งหนึ่งที่ชวนให้รับประทานนั้น ได้มาจากผักและเครื่องปรุงที่เสริมลงไป นอกจากแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแล้วยังให้รสชาติเลิศถูกอดถูกใจได้ไม่ยากอีกด้วย

เครื่องปรุง
  1. ข้าวสวย (ไม่แฉะ) ¾ ถ้วยตวง
  2. หมูสับ 50 กรัม
  3. หมูแฮมหั่นเป็นเส้นฝอย 1 แผ่น
  4. หมูยอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมสับ 8 กลีบ
  6. แครอทหั่นเป็นเส้นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. มะเขือเทศผ่าตามยาว 1 ลูก
  8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  10. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  12. ซอสปรุงรสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
  13. มะนาว 1 ซีก
  14. แตงกวา ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น
(ถ้าบางอย่างไม่มีไม่เป็นไรครับ ใส่อย่างอื่นแทนได้ หรือถ้ามีแค่ข้าวกะไข่ ก็พอกล้อมแกล้มได้เหมือนกัน)

วิธีทำ
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้เหลือง
2. จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหมูแฮมและหมูยอลงไปผัด
3. เสร็จแล้วใส่ข้าวสวยลงผัดให้ส่วนผสมเข้ากันจึงใส่แครอทและมะเขือเทศลงไปผัด ปรุงด้วยซอสปรุงรส และซีอิ๊วขาวผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน จากนั้นใช้ตะหลิวดันข้าวผัดขึ้นไปอยู่ข้างๆกระทะ เว้นที่ก้นกระทะไว้ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่ให้แตก จากนั้นตักข้าวที่อยู่ข้างกระทะกลบทับไข่ไว้ รอจนไข่สุกแล้วจึงช้อนกลับให้ไข่อยู่ด้านบน ใส่น้ำมันหอยลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ตักใส่จาน จัดเรียงแตงกวาและมะนาวไว้ข้างๆจานเสิร์ฟได้ทันที

เคล็ดลับวิธีทำข้าวผัดให้อร่อย
  • สิ่งสำคัญ ข้าวสวยที่ใช้ผัดต้องไม่แฉะ นอกจากนี้ เมื่อข้าวสุกใหม่ร้อนๆ ควรเกลี่ยใส่ถาด ให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัด ข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน
  • น้ำมันไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้แฉะและเลี่ยน ไม่น่ากิน
  • ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าวพอผัดข้าวจนทั่วเกลี่ยข้าวไว้อีกด้าน หนึ่งต่อยไข่ใส่กลบข้าวบนไข่พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
  • “กระทะ” เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆเหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมือใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ “ตะหลิว” ก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อน
  • พวกผักต่างๆนั้น ควรหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือชิ้นเล็กๆ จะช่วยทำให้ข้าวผัดอร่อยกว่าใส่ชิ้นใหญ่ เช่น หอมใหญ่ คะน้า แครอท มะเขือเทศ ต้มหอม หั่นชิ้นเล็ก



แกงหน่อไม้ใบย่านางหรือแกงลาว รสแซ่บ
หน่อไม้ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งแกง ต้มจิ้มน้ำพริกปลาทูก็อร่อย และอีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านอีสาน นั่นก็คือ “แกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือ แกงลาว“นั้นเป็นแกงเดียวกัน แกงลาวเป็นแกงยอดฮิตทางภาคอีสาน ใน 1 ถ้วย รับประทานได้ไม่รู้เบื่อ ใครที่ชอบทานหน่อไม้ห้ามพลาด เพราะแกงหน่อไม้หรือแกงลาวนี้มีรสชาติอร่อยแซ่บสไตล์อีสาน อย่างน้อยต้องมีรสเผ็ดนิดๆจึงจะอร่อย และในแกงหน่อไม้ใบย่านางนี้ยังประกอบไปด้วยสมุนไพรมากมาย และยังให้คุณค่าทางอาหารสูงอีกด้วย ดังนั้น เมนูที่จะนำเสนอวันนี้จึงเป็นอาหารจานอื่นไปไม่ได้นอกจากแกงหน่อไม้ใบย่านางหรือแกงลาว อาหารอีสานบ้านเฮานั่นเอง สำหรับวิธีการทำมีดังนี้…

เครื่องปรุง
  1. หน่อไม้สด หรือหน่อไม้รวกสุกสีเหลือง (ซื้อที่ตลาด) 8 หน่อ(สำหรับหน่อไม้สด…อะไรก็ได้ เช่น หน่อไม้ไผ่ตง, หน่อไม้บง (ขมๆ), หน่อไม้ไผ่บ้าน)
  2. ปลาย่างแกะเนื้อ 1 ถ้วยตวง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  3. ชะอมเด็ด 2 ถ้วยตวง
  4. ใบแมงลักเด็ด 2 ถ้วยตวง
  5. ใบย่านางคั้นเอาน้ำ (ซื้อที่ตลาดก็ได้) 2 ถ้วยตวง
  6. น้ำปลาร้า ½ ถ้วยตวง
  7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ฟักทอง (หรือยอดฟักทอง) 2 ถ้วยตวง
  9. เห็ดฟาง (เห็ดนางฟ้า) 2 ถ้วยตวง
  10. ข้าวโพดอ่อน, บวบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)


หน่อไม้รวกสุกฝานบาง แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด
หน่อไม้สดฝานบางๆ เพื่อที่จะนำไปต้มให้สุก
เครื่องปรุงของน้ำพริกแกง
  1. พริกขี้หนูสด ¼ ถ้วยตวง
  2. หัวหอมแดง ½ ถ้วยตวง
  3. ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ข้าวเหนียวแช่น้ำ ¼ ถ้วยตวง
  5. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
**โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด**

วิธีทำ
1. เตรียมหน่อไม้
  • ปอกเปลือกหน่อไม้สด จากนั้นฝานให้เป็นชิ้นบางๆ เวลาต้มจะได้สุกและหายขมเร็ว ถ้ายังขมมากก็ต้มสักสองครั้ง ชิมดูว่าจืดหรือยัง คือหน่อไม้ที่เตรียมเสร็จแล้วนั้นควรมีรสจืด…ถ้าจืดแล้วก็เทน้ำต้มหน่อไม้ทิ้งไป
  • หรือจะซื้อหน่อไม้รวกเหลืองมาเลยก็ได้…สะดวกดี ล้างน้ำสะอาดสัก 1 รอบ แล้วนำมาปรุงแกงหน่อไม้ได้เลย
2. ให้นำส่วนเฉพาะเนื้อของปลาย่างสุก โขลกรวมกันในน้ำพริกแกง
3. เตรียมผักต่างๆสำหรับปรุง
  • นำเห็ดฟางตัดโคนดำออก ผ่าครึ่ง ล้างน้ำไว้ให้สะอาด
  • นำชะอม ใบแมงลัก มาเด็ดยอดและใบไว้ แล้วล้างน้ำให้สะอาดพักไว้
  • นำฟักทองมาหั่นแล้วล้างน้ำให้สะอาด
  • นำใบย่านางมาเลือกเอาใบ แล้วล้างน้ำให้สะอาดคั้นเอาน้ำ พักไว้
  • คั้นใบย่านางกรองเอาแต่น้ำ (ใช้เครื่องปั่นจะเร็วกว่าใช้ครกโขลก) คือใช้ใบย่านาง 6-10 ใบ แล้วเติมน้ำ 2 ถ้วยตวงลงไป แล้วกรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้น้ำใบย่านาง 2 ถ้วยตวงแล้ว
4. นำหน่อไม้มาต้มกับน้ำใบย่านาง พอเดือดใส่น้ำพริกแกงลงคนให้ทั่ว พอเดือดอีกใส่เห็ด ฟักทอง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมดูรสชาติให้อร่อยตามชอบใจ พอน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ชะอม ใบแมงลัก คนให้ทั่ว แล้วปิดไฟ
ขั้นตอนทำซุปหน่อไม้

5. พร้อมตักเสิร์ฟรับประทานร้อนๆ (^_^)
(เสิร์ฟรับประทานได้ 1 ถ้วย)

แนะนำเพิ่มเติม
  • อาหารพื้นๆ ได้คุณค่าทางยาจากพืชสมุนไพร อย่าง กระชาย ใบย่านาง หรือ ใบชะอม แต่ต้องระวังสำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เพราะในหน่อไม้จะมีสารพวก ออกซาเลตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคนิ่ว
  • สำหรับเนื้อปลาย่างจะใส่หรือไม่ก็แล้วแต่ชอบ หรือเราจะเปลี่ยนเอาเป็นเนื้อหมูสุก เนื้อไก่สุกก็ย่อมได้ทั้งนั้น
  • สำหรับผู้ที่ไม่ชอบน้ำปลาร้าสามารถใส่แต่น้ำปลาแทนอย่างเดียวก็ได้ หรือจะใส่แต่น้ำปลาร้าอย่างเดียวก็ได้ ก็อร่อยเช่นกัน…ขึ้นอยู่กับความชอบ

ก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรอร่อยเด็ด
"ก๋วยจั๊บน้ำข้น" อีกเมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยเด็ดและได้คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนในจานเดียว เอกลักษณ์ของก๊วยจั๊บน้ำข้นนั้นอยู่ที่เครื่องมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นหมูกรอบ ไส้หมู ตับหมู ปอดหมู เต้าหู้ทอด ไข่ต้ม ปอด และหนังหมู และก๋วยจั๊บก็เป็นเช่นเดียวกับก๋วยเตี๋ยว สามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้นปรุงรสอีกนิดหน่อยหรือแทบไม่ต้องปรุงเลย จึงทำให้ถูกปากถูกใจได้ไม่ยาก ที่มีสูตรก๋วยจั๊บน้ำข้นดังนี้...


เครื่องปรุง
  1. เส้นก๋วยจั๊บ 1 กิโลกรัม
  2. ตับหมู ½ กิโลกรัม
  3. ไส้ใหญ่หมู ½ กิโลกรัม
  4. ปอดหมู 2 พวง
  5. หนังหมู ½ กิโลกรัม
  6. เต้าหู้ทอด 2 พวง
  7. หมูกรอบชิ้นยาว 2 ชิ้น
  8. พริกไทยขาวเป็นเม็ด 30 เม็ด
  9. แป้งข้าวเจ้า 10 ช้อนโต๊ะ
  10. ไข่ต้ม 20 ฟอง
  11. กระเทียมบุบ 6 หัว
  12. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  13. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  14. ซ๊อิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  15. ซิ๊วดำ ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ก่อนอื่นให้เตรียมเส้นก๋วยจั๊บก่อน โดยการนำเส้นก๊วยจั๊บมาต้มกับน้ำซุปจนกระทั่งเส้นนิ่มได้ที่แล้วให้นำแป้งข้าวเจ้ามาละลายกับน้ำใส่ลงเคี่ยวในหม้อให้ข้นแต่อย่าให้เหนียว ปิดไฟพักไว้
2. จากนั้นหันมาทำน้ำพะโล้ด้วยการต้มน้ำ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวสักครู่พอให้หวานน้ำต้มกระดูกหมู จากนั้นให้ใส่โป๊ยกั๊ก รากผักชี อบเชย พริกไทยเม็ด กระเทียมบุบพอแหลก เกลือ น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ ตามด้วยเครื่องในหมู ได้แก่ ตับหมู ปอดหมู หนังหมู และไข่ต้มลงไป เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อน รอจนตับหมูเริ่มสุกให้ตักขึ้นมาก่อน เนื่องจากตับจะเป็นส่วนที่สุกเร็วที่สุด นอกนั้นให้เคี่ยวต่อไปจนเปื่อยแล้วจึงค่อยตักขึ้นมาใส่ในภาชนะเตรียมขาย หรือจะนำใส่ในตะแกรงโลหะแขวนไว้บนหม้อต้มให้ได้รับความร้อนตลอดเวลาก็ได้เพียงเท่านี้ก็ได้ก๋วยจั๊บรสเด็ดแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น