สูตรอาหารไทย ข้าวผัดหมู เมนูอาหารนี้อาจฟังดูเป็นอาหารพื้นๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะหาข้าวผัดหมูอร่อยๆถูกใจนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน ปกติแล้วมักจะเจอแบบพอกินได้เท่านั้น ทั้งที่วิธีทำข้าวผัดหมูนั้นสามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเลย แต่ทำไมความอร่อยและน่าทานจึงแตกต่างกัน คุณอยากรู้ไหม? …เคล็ดลับของข้าวผัดหมูนั้นอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ปรุง ว่าจะเพิ่มเสริมรสอย่างไรให้ถูกใจถูกปากผู้บริโภค และที่สำคัญข้าวผัดจะต้องแห้งหมาด รสชาติเข้มข้น สีสันสวยงาม และสิ่งหนึ่งที่ชวนให้รับประทานนั้น ได้มาจากผักและเครื่องปรุงที่เสริมลงไป นอกจากแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแล้วยังให้รสชาติเลิศถูกอดถูกใจได้ไม่ยากอีกด้วย
เครื่องปรุง
- ข้าวสวย (ไม่แฉะ) ¾ ถ้วยตวง
- หมูสับ 50 กรัม
- หมูแฮมหั่นเป็นเส้นฝอย 1 แผ่น
- หมูยอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 8 กลีบ
- แครอทหั่นเป็นเส้นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศผ่าตามยาว 1 ลูก
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- ซอสปรุงรสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
- มะนาว 1 ซีก
- แตงกวา ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น
วิธีทำ
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้เหลือง
2. จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหมูแฮมและหมูยอลงไปผัด
3. เสร็จแล้วใส่ข้าวสวยลงผัดให้ส่วนผสมเข้ากันจึงใส่แครอทและมะเขือเทศลงไปผัด ปรุงด้วยซอสปรุงรส และซีอิ๊วขาวผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน จากนั้นใช้ตะหลิวดันข้าวผัดขึ้นไปอยู่ข้างๆกระทะ เว้นที่ก้นกระทะไว้ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่ให้แตก จากนั้นตักข้าวที่อยู่ข้างกระทะกลบทับไข่ไว้ รอจนไข่สุกแล้วจึงช้อนกลับให้ไข่อยู่ด้านบน ใส่น้ำมันหอยลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ตักใส่จาน จัดเรียงแตงกวาและมะนาวไว้ข้างๆจานเสิร์ฟได้ทันที
เคล็ดลับวิธีทำข้าวผัดให้อร่อย
- สิ่งสำคัญ ข้าวสวยที่ใช้ผัดต้องไม่แฉะ นอกจากนี้ เมื่อข้าวสุกใหม่ร้อนๆ ควรเกลี่ยใส่ถาด ให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัด ข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน
- น้ำมันไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้แฉะและเลี่ยน ไม่น่ากิน
- ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าวพอผัดข้าวจนทั่วเกลี่ยข้าวไว้อีกด้าน หนึ่งต่อยไข่ใส่กลบข้าวบนไข่พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
- “กระทะ” เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆเหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมือใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ “ตะหลิว” ก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อน
- พวกผักต่างๆนั้น ควรหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือชิ้นเล็กๆ จะช่วยทำให้ข้าวผัดอร่อยกว่าใส่ชิ้นใหญ่ เช่น หอมใหญ่ คะน้า แครอท มะเขือเทศ ต้มหอม หั่นชิ้นเล็ก
แกงหน่อไม้ใบย่านางหรือแกงลาว รสแซ่บ
เครื่องปรุง
เครื่องปรุงของน้ำพริกแกง
วิธีทำ
1. เตรียมหน่อไม้
3. เตรียมผักต่างๆสำหรับปรุง
ก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรอร่อยเด็ด
หน่อไม้ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งแกง ต้มจิ้มน้ำพริกปลาทูก็อร่อย และอีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านอีสาน นั่นก็คือ “แกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือ แกงลาว“นั้นเป็นแกงเดียวกัน แกงลาวเป็นแกงยอดฮิตทางภาคอีสาน ใน 1 ถ้วย รับประทานได้ไม่รู้เบื่อ ใครที่ชอบทานหน่อไม้ห้ามพลาด เพราะแกงหน่อไม้หรือแกงลาวนี้มีรสชาติอร่อยแซ่บสไตล์อีสาน อย่างน้อยต้องมีรสเผ็ดนิดๆจึงจะอร่อย และในแกงหน่อไม้ใบย่านางนี้ยังประกอบไปด้วยสมุนไพรมากมาย และยังให้คุณค่าทางอาหารสูงอีกด้วย ดังนั้น เมนูที่จะนำเสนอวันนี้จึงเป็นอาหารจานอื่นไปไม่ได้นอกจากแกงหน่อไม้ใบย่านางหรือแกงลาว อาหารอีสานบ้านเฮานั่นเอง สำหรับวิธีการทำมีดังนี้…
เครื่องปรุง
- หน่อไม้สด หรือหน่อไม้รวกสุกสีเหลือง (ซื้อที่ตลาด) 8 หน่อ(สำหรับหน่อไม้สด…อะไรก็ได้ เช่น หน่อไม้ไผ่ตง, หน่อไม้บง (ขมๆ), หน่อไม้ไผ่บ้าน)
- ปลาย่างแกะเนื้อ 1 ถ้วยตวง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- ชะอมเด็ด 2 ถ้วยตวง
- ใบแมงลักเด็ด 2 ถ้วยตวง
- ใบย่านางคั้นเอาน้ำ (ซื้อที่ตลาดก็ได้) 2 ถ้วยตวง
- น้ำปลาร้า ½ ถ้วยตวง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ฟักทอง (หรือยอดฟักทอง) 2 ถ้วยตวง
- เห็ดฟาง (เห็ดนางฟ้า) 2 ถ้วยตวง
- ข้าวโพดอ่อน, บวบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
เครื่องปรุงของน้ำพริกแกง
- พริกขี้หนูสด ¼ ถ้วยตวง
- หัวหอมแดง ½ ถ้วยตวง
- ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวเหนียวแช่น้ำ ¼ ถ้วยตวง
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เตรียมหน่อไม้
- ปอกเปลือกหน่อไม้สด จากนั้นฝานให้เป็นชิ้นบางๆ เวลาต้มจะได้สุกและหายขมเร็ว ถ้ายังขมมากก็ต้มสักสองครั้ง ชิมดูว่าจืดหรือยัง คือหน่อไม้ที่เตรียมเสร็จแล้วนั้นควรมีรสจืด…ถ้าจืดแล้วก็เทน้ำต้มหน่อไม้ทิ้งไป
- หรือจะซื้อหน่อไม้รวกเหลืองมาเลยก็ได้…สะดวกดี ล้างน้ำสะอาดสัก 1 รอบ แล้วนำมาปรุงแกงหน่อไม้ได้เลย
3. เตรียมผักต่างๆสำหรับปรุง
- นำเห็ดฟางตัดโคนดำออก ผ่าครึ่ง ล้างน้ำไว้ให้สะอาด
- นำชะอม ใบแมงลัก มาเด็ดยอดและใบไว้ แล้วล้างน้ำให้สะอาดพักไว้
- นำฟักทองมาหั่นแล้วล้างน้ำให้สะอาด
- นำใบย่านางมาเลือกเอาใบ แล้วล้างน้ำให้สะอาดคั้นเอาน้ำ พักไว้
- คั้นใบย่านางกรองเอาแต่น้ำ (ใช้เครื่องปั่นจะเร็วกว่าใช้ครกโขลก) คือใช้ใบย่านาง 6-10 ใบ แล้วเติมน้ำ 2 ถ้วยตวงลงไป แล้วกรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้น้ำใบย่านาง 2 ถ้วยตวงแล้ว
4. นำหน่อไม้มาต้มกับน้ำใบย่านาง พอเดือดใส่น้ำพริกแกงลงคนให้ทั่ว พอเดือดอีกใส่เห็ด ฟักทอง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมดูรสชาติให้อร่อยตามชอบใจ พอน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ชะอม ใบแมงลัก คนให้ทั่ว แล้วปิดไฟ
5. พร้อมตักเสิร์ฟรับประทานร้อนๆ (^_^)
(เสิร์ฟรับประทานได้ 1 ถ้วย)
แนะนำเพิ่มเติม
(เสิร์ฟรับประทานได้ 1 ถ้วย)
แนะนำเพิ่มเติม
- อาหารพื้นๆ ได้คุณค่าทางยาจากพืชสมุนไพร อย่าง กระชาย ใบย่านาง หรือ ใบชะอม แต่ต้องระวังสำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เพราะในหน่อไม้จะมีสารพวก ออกซาเลตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคนิ่ว
- สำหรับเนื้อปลาย่างจะใส่หรือไม่ก็แล้วแต่ชอบ หรือเราจะเปลี่ยนเอาเป็นเนื้อหมูสุก เนื้อไก่สุกก็ย่อมได้ทั้งนั้น
- สำหรับผู้ที่ไม่ชอบน้ำปลาร้าสามารถใส่แต่น้ำปลาแทนอย่างเดียวก็ได้ หรือจะใส่แต่น้ำปลาร้าอย่างเดียวก็ได้ ก็อร่อยเช่นกัน…ขึ้นอยู่กับความชอบ
ก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรอร่อยเด็ด
"ก๋วยจั๊บน้ำข้น" อีกเมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยเด็ดและได้คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนในจานเดียว เอกลักษณ์ของก๊วยจั๊บน้ำข้นนั้นอยู่ที่เครื่องมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นหมูกรอบ ไส้หมู ตับหมู ปอดหมู เต้าหู้ทอด ไข่ต้ม ปอด และหนังหมู และก๋วยจั๊บก็เป็นเช่นเดียวกับก๋วยเตี๋ยว สามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้นปรุงรสอีกนิดหน่อยหรือแทบไม่ต้องปรุงเลย จึงทำให้ถูกปากถูกใจได้ไม่ยาก ที่มีสูตรก๋วยจั๊บน้ำข้นดังนี้...
เครื่องปรุง
วิธีทำ
1. ก่อนอื่นให้เตรียมเส้นก๋วยจั๊บก่อน โดยการนำเส้นก๊วยจั๊บมาต้มกับน้ำซุปจนกระทั่งเส้นนิ่มได้ที่แล้วให้นำแป้งข้าวเจ้ามาละลายกับน้ำใส่ลงเคี่ยวในหม้อให้ข้นแต่อย่าให้เหนียว ปิดไฟพักไว้
2. จากนั้นหันมาทำน้ำพะโล้ด้วยการต้มน้ำ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวสักครู่พอให้หวานน้ำต้มกระดูกหมู จากนั้นให้ใส่โป๊ยกั๊ก รากผักชี อบเชย พริกไทยเม็ด กระเทียมบุบพอแหลก เกลือ น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ ตามด้วยเครื่องในหมู ได้แก่ ตับหมู ปอดหมู หนังหมู และไข่ต้มลงไป เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อน รอจนตับหมูเริ่มสุกให้ตักขึ้นมาก่อน เนื่องจากตับจะเป็นส่วนที่สุกเร็วที่สุด นอกนั้นให้เคี่ยวต่อไปจนเปื่อยแล้วจึงค่อยตักขึ้นมาใส่ในภาชนะเตรียมขาย หรือจะนำใส่ในตะแกรงโลหะแขวนไว้บนหม้อต้มให้ได้รับความร้อนตลอดเวลาก็ได้เพียงเท่านี้ก็ได้ก๋วยจั๊บรสเด็ดแล้ว
เครื่องปรุง
- เส้นก๋วยจั๊บ 1 กิโลกรัม
- ตับหมู ½ กิโลกรัม
- ไส้ใหญ่หมู ½ กิโลกรัม
- ปอดหมู 2 พวง
- หนังหมู ½ กิโลกรัม
- เต้าหู้ทอด 2 พวง
- หมูกรอบชิ้นยาว 2 ชิ้น
- พริกไทยขาวเป็นเม็ด 30 เม็ด
- แป้งข้าวเจ้า 10 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ต้ม 20 ฟอง
- กระเทียมบุบ 6 หัว
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
- ซ๊อิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซิ๊วดำ ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ก่อนอื่นให้เตรียมเส้นก๋วยจั๊บก่อน โดยการนำเส้นก๊วยจั๊บมาต้มกับน้ำซุปจนกระทั่งเส้นนิ่มได้ที่แล้วให้นำแป้งข้าวเจ้ามาละลายกับน้ำใส่ลงเคี่ยวในหม้อให้ข้นแต่อย่าให้เหนียว ปิดไฟพักไว้
2. จากนั้นหันมาทำน้ำพะโล้ด้วยการต้มน้ำ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวสักครู่พอให้หวานน้ำต้มกระดูกหมู จากนั้นให้ใส่โป๊ยกั๊ก รากผักชี อบเชย พริกไทยเม็ด กระเทียมบุบพอแหลก เกลือ น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ ตามด้วยเครื่องในหมู ได้แก่ ตับหมู ปอดหมู หนังหมู และไข่ต้มลงไป เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อน รอจนตับหมูเริ่มสุกให้ตักขึ้นมาก่อน เนื่องจากตับจะเป็นส่วนที่สุกเร็วที่สุด นอกนั้นให้เคี่ยวต่อไปจนเปื่อยแล้วจึงค่อยตักขึ้นมาใส่ในภาชนะเตรียมขาย หรือจะนำใส่ในตะแกรงโลหะแขวนไว้บนหม้อต้มให้ได้รับความร้อนตลอดเวลาก็ได้เพียงเท่านี้ก็ได้ก๋วยจั๊บรสเด็ดแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น